ผมแยกผู้มุ่งหวังในธุรกิจเครือข่ายเป็น 2 ประเภท
- คือผู้ที่มีความเคลือบแคลงสงสัย : ไม่มีอคติ แต่ไม่เชื่อจนกว่าคุณจะพิสูจน์ให้เห็น เขาสนใจอยู่แค่อย่างเดียวคือ มันทำได้จริงไหม เป็นไปได้ไหม และที่สำคัญ เขาจะไว้วางใจคุณได้ไหม
- คือผู้ที่มองโลกในแง่ร้าย : ฉันไม่เชื่อ ถึงแม้คุณจะพิสูจน์ให้เห็นแล้วก็ตาม คนพวกนี้คือคนเขลา ถือว่าคุณโชคดีที่เขาไม่ได้เข้าร่วมธุรกิจกับคุณ
ในการสปอนเซอร์ผู้มุ่งหวัง ยังไงก็ไม่พ้นที่จะต้องมีคนตั้งคำถาม และแน่นอนว่าไม่พ้นที่จะต้องมีคนตอบ ถาม-ตอบ จะเกิดขึ้นเสมอตลอดการสนทนา ตราบใดที่เขายังเคลือบแคลงใจอยู่ เขาก็ยังไม่ตกลงใจที่จะสมัครเข้าร่วมธุรกิจกับคุณ แต่ถ้าคุณตอบคำถามได้ดี ตอบได้ตรงประเด็นและตอบได้เคลียร์ คุณก็จะสามารถเอาชนะใจผู้มุ่งหวัง (prospect) ได้ไม่ยากเลยครับ
แต่หากคุณตอบคำถามได้ไม่เคลียร์ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คงจะทำให้ตัวผู้มุ่งหวังไม่สามารถตัดสินใจได้ เขาจะมองย้อนกลับมาสงสัยตัวเราอีกว่า เรารู้จริงไหม… มั่วหรือเปล่า เราจะนำพาเขาไปรอดได้จริงๆหรอ และถ้าไม่มีคนเข้าร่วม คุณก็จะไม่มีผลลัพธ์ทางธุรกิจเลย
การตอบข้อโต้แย้งเรื่องธุรกิจใน MLM หมอเส็ง
ต่อไปนี้คือคำถามที่ผมรวบรวมมา เป็นคำถามแบบเด๊ะๆ ที่หากคุณสามารถตอบได้แบบเด๊ะๆหรือขจัดข้อสงสัยได้ ก็จะช่วยให้คุณไปต่อ หรือสามารถทำให้เขาเข้าร่วมธุรกิจกับคุณ โดยคำถามที่เกิดขึ้นในธุรกิจเครือข่าย นั้นเกี่ยวข้องกับสินค้าและตัวธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ เราจะเริ่มจากคำถามข้อโต้แย้งในหมวดธุรกิจกันก่อนนะครับ
1.มีคนเคยชวนทำแล้ว ธุรกิจนี้หรอ อ๋อ…รู้จักแล้ว ราคาเท่านี้ใช่ไหม เป็นแบบนี้ใช่ไหม รู้หมดแล้ว : ถ้าคุณเจอคำตอบแบบนี้ คุณต้องถามเขากลับด้วยคำถาม เหมือนที่จิตแพทย์ชอบทำ ให้คุณถามกลับไปว่า “ แล้วทำไมคุณถึงไม่ตกลงใจทำครับ ” ?
ทีเด็ดจะอยู่ตรงคำตอบ ที่เขาจะตอบกลับมานี้แหละ และไม่ว่าเขาจะตอบอะไรกลับมา ให้คุณตอบเขากลับไปว่า
“ ที่พี่พูดมาก็มีส่วนที่ถูกต้องครับ แต่พี่เชื่อไหมครับว่า ธุรกิจนี้คนรู้จักเยอะก็จริงแต่คนรู้จริงน้อย พี่จะรู้จักจากปากใครมาเยอะแค่ไหนไม่สำคัญ แต่ที่สำคัญพี่ต้องรู้จากคนที่รู้จริง พี่ต้องได้ฟัง จากมืออาชีพ ”
“ ที่พี่พูดมาก็มีส่วนที่ถูกต้องครับ แต่พี่เชื่อไหมครับว่า ธุรกิจนี้คนรู้จักเยอะก็จริงแต่คนรู้จริงน้อย พี่จะรู้จักจากปากใครมาเยอะแค่ไหนไม่สำคัญ แต่ที่สำคัญพี่ต้องรู้จากคนที่รู้จริง พี่ต้องได้ฟัง จากมืออาชีพ ”
“ นั่งคุยกันครับเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง ว่าจริงๆแล้วธุรกิจนี้คืออะไร ผมรบกวนเวลาพี่นิดเดียวครับ คุยกันสั้นๆแค่ 10 นาที ”
“ ผมเชื่อมั่นว่าถ้าพี่ได้ฟังจากความเป็นมืออาชีพของผม แล้วพี่จะรู้ได้เลยว่ามันแตกต่างจากสิ่งที่พี่ฟังมาทั้งหมด ”
“ บอกเลยถ้าพี่ได้ฟังจากมืออาชีพ พี่ตกลงใจสมัครทำไปแล้ว เพราะจากที่พี่บอกผมมาว่าฟังมาหลายคนแล้วแต่ยังไม่ได้ทำ ก็ง่ายมากเพราะพี่ยังไม่เจอคนที่เป็นมืออาชีพจริงๆ นั่งเลยผมเล่าให้ฟังครับ “
ของอย่างนี้มันอยู่ที่ความมั่นใจ เขาจะฟังมากี่คนเป็นเรื่องของเขา เรื่องของเราคือเรานำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด 1.ตัวเราใช่ 2. ธุรกิจเราใช่ ถ้ามันดีพอสำหรับเรามันก็ดีพอสำหรับคนอื่น เขาจะฟังมาเท่าไรคุณไม่ต้องไปสน คุณสนแค่ว่าเขายังไม่สมัครเข้าร่วมธุรกิจกับใครเป็นพอครับ
2.จะทำได้จริงๆหรอ ? รายได้เป็นแสนเป็นล้าน เขาไม่เชื่อมั่นในตัวเอง หรือแท้จริงแล้วเขามีความกังวลในตัวคุณ ไม่ได้ต้องการคำตอบที่แท้จริง ด้วยเหตุผล 108 ประการทั้งปวง
สิ่งที่คุณต้องทำคือสร้างความเชื่อมั่นให้เขา “พี่เชื่อไหม ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อมั่นว่าผมจะทำได้ ดูทรงผมสิ… มันเหมาะที่ไหนที่จะทำ”
“แต่อย่างหนึ่งที่ผมไม่ทำคือ ผมไม่ดูถูกตัวเอง ผมไม่รู้หรอกว่าผมจะทำได้ไม่ได้ ผมพุ่งเป้าไปที่ผลลัพธ์เท่านั้น สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่การทำงานยาก แต่คืองานที่ไม่มีอนาคต”
“และตอนนี้พี่โชคดีมากๆ เพราะเรามีระบบธุรกิจ ที่สอนกันได้ ส่งต่อกันได้จริง เป็นธุรกิจทันสมัยที่สำเร็จบนความสำเร็จของคนอื่น”
“พี่ลองจิตนาการดูนะ หากพี่ทำธุรกิจใช่เวลาเพียงแค่ 1 ปี แล้วในปีหน้า ทำให้พี่มีรายได้เดือนละแสน แบบนี้พี่ว่าน่าสนใจไหมครับ ?”
“พี่ลองเข้ามาดูระบบกับผมดู ถ้าพี่มาฟังแล้วรู้สึกไม่ใช่นะ ผมจะไม่พูดเรื่องนี้อีกเลย”
สิ่งที่คุณควรทำคือ ให้ใช้ระบบเป็นตัวอธิบาย ข้อนี้เหมาะกับการนำพาผู้มุ่งหวังเข้าสู่ศูนย์ปฏิบัติการ
“แต่อย่างหนึ่งที่ผมไม่ทำคือ ผมไม่ดูถูกตัวเอง ผมไม่รู้หรอกว่าผมจะทำได้ไม่ได้ ผมพุ่งเป้าไปที่ผลลัพธ์เท่านั้น สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่การทำงานยาก แต่คืองานที่ไม่มีอนาคต”
“และตอนนี้พี่โชคดีมากๆ เพราะเรามีระบบธุรกิจ ที่สอนกันได้ ส่งต่อกันได้จริง เป็นธุรกิจทันสมัยที่สำเร็จบนความสำเร็จของคนอื่น”
“พี่ลองจิตนาการดูนะ หากพี่ทำธุรกิจใช่เวลาเพียงแค่ 1 ปี แล้วในปีหน้า ทำให้พี่มีรายได้เดือนละแสน แบบนี้พี่ว่าน่าสนใจไหมครับ ?”
“พี่ลองเข้ามาดูระบบกับผมดู ถ้าพี่มาฟังแล้วรู้สึกไม่ใช่นะ ผมจะไม่พูดเรื่องนี้อีกเลย”
สิ่งที่คุณควรทำคือ ให้ใช้ระบบเป็นตัวอธิบาย ข้อนี้เหมาะกับการนำพาผู้มุ่งหวังเข้าสู่ศูนย์ปฏิบัติการ
3. ตัวคุณทำได้หรือยัง รายได้เดือนเท่าไหร่แล้วถึงมาชวนตู ? เจอแบบนี้ถึงกับร้องเลยสิครับ คำถามนี้ใครโดนแรกๆ ถึงกับจุก การตอบข้อโต้แย้งไม่มีอะไรมากครับ ใช้ความจริงใจเข้าไว้ ขายความใฝ่ฝันในอนาคต
“ตอบเขาไปว่าถูกต้องครับ ตอนนี้ผมเพิ่งทำเป็นเดือนแรก แต่ผมเชื่อมั่นว่าภายใน 15 เดือน ผมได้เดือนละแสนจากธุรกิจนี้แน่นอนครับ”
คนที่เขาถามแบบนี้ ผมบอกได้เลยครับว่าเขาถามเอาความมั่นใจครับ เขาไม่ได้ต้องการเหตุผลมากมาย อยู่ที่ความกล้าในตัวคุณ เขาไม่อยากสมัครมาแล้ว up line เลิก เขาต้องการชัวร์ ว่าคุณจริงใจแค่ไหน คุณพร้อมแค่ไหนกัน
บางคนเขาถามกวนไปงั้น เป็นข้อโต้แย้งเทียม คุณต้องแยกแยะครับ เราก็เลือกผู้มุ่งหวังเหมือนกัน เพราะเราก็ต้องช่วยเหลือเขา รับผิดชอบเขา มันเป็นธุรกิจแห่งการให้ เมื่อเขาเข้าร่วมธุรกิจกับคุณแล้วไม่เป็นภาระก็เป็นพลังให้คุณ
ฉะนั้นแล้ว ต่อให้เราได้ผลลัพธ์เยอะ เดือนละล้าน คนไม่ทำมันก็ไม่ทำอยู่ดี ชวน 10 ก็อาจจะมีโอกาสได้ 5 เราทำงานบนหลักสถิติ เหมือนเดิมครับ...
ฉะนั้นแล้ว ต่อให้เราได้ผลลัพธ์เยอะ เดือนละล้าน คนไม่ทำมันก็ไม่ทำอยู่ดี ชวน 10 ก็อาจจะมีโอกาสได้ 5 เราทำงานบนหลักสถิติ เหมือนเดิมครับ...
4.ขายไม่เก่ง ขายไม่เป็น................
ติดตามอ่านต่อได้ที่ เทคนิคการตอบข้อโต้แย้ง แบบเด๊ะๆ ตอนที่ 2