8 Healthy ways to boost energy (Happy+)
คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าคะ ที่หากรู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมาเมื่อใด เป็นต้องรีบหาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน ไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ ไปจนถึงเครื่องดื่มหวานเย็นชื่นใจที่อ้างว่ามีสรรพคุณคืนความสดชื่นให้ร่างกายมาดื่ม หากใช่ต้องฟังทางนี้เลยค่ะ
ข้อมูลล่าสุดจาก The Food and Drug Administration (FDA or USFDA) ระบุชัดเจนว่า การดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ในระยะยาว ส่งผลให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกาย (Immune System) ลดลง ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บและอาการอ่อนเพลียได้ง่ายขึ้น ทั้งที่จริง ๆ แล้วแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารของคุณ เพียงเท่านี้ก็ช่วยเพิ่มระดับพลังงาน ทำให้คุณสดชื่นได้ตลอดวันแล้วล่ะค่ะ
วันนี้เราจึงขอนำเสนอ 8 เคล็ดลับการกินง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณสดชื่น สดใส ตลอดเวลาจนคนรอบข้างแปลกใจค่ะ


ใช่แล้วค่ะ ส่วนประกอบ 2 ใน 3 ของร่างกายมนุษย์คือน้ำ การรักษาระดับน้ำด้วย การดื่มน้ำให้ได้หลาย ๆ แก้วต่อวันโดยไม่ต้องนับว่า 8-9 แก้วแล้วพอ นั่นย่อมดีต่อตัวคุณเป็นแน่ ดังนั้นการดื่มน้ำสะอาดย่อมเป็นวิธีที่สุดแสนจะประหยัด ซึ่งผ่านการพิสูจน์แล้วว่าจะช่วยคืนความสดชื่นให้กับร่างกายได้มากกว่าเครื่องดื่มผสมวิตามิน หรือเครื่องดื่มเกลือแร่เป็นไหน ๆ


มีการศึกษายืนยันชัดเจนว่า การกินอาหารเช้าสามารถกระตุ้นระบบเมตาบอลิซึม (Metabolism) หรือกระบวนการสร้างและเผาผลาญในเซลล์ของร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เรารู้สึกสดชื่นไปตลอดทั้งวัน รู้อย่างนี้แล้วมาเริ่มเช้าวันใหม่ด้วยอาหารเช้าดี ๆ กันนะคะ


อย่าปล่อยให้ท้องหิวระหว่างมื้ออาหารเชียวนะคะ เพราะนั่นเป็นสาเหตุให้ระดับความดันโลหิตของคุณลดลง จนเกิดอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงระหว่างวันได้ เพื่อความไม่ประมาท ควรเตรียมของกินเล่นที่ผสมผสานประโยชน์จากโปรตีนและไขมันคุณภาพ เพื่อช่วยชะลอไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดตก ไว้รับประทานระหว่างวันด้วย



มีการศึกษายืนยันชัดเจนว่า แหล่งอาหารชั้นดีอย่างปลาแซลมอน ปลาทูน่า เมล็ดแฟลกช์ (Flaxseed) ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม และปวยเล้ง นอกจากจะให้พลังงานดี ๆ แก่ร่างกายแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมของกรดไขมันโอเมก้า 3 คุณภาพ ที่ร่างกายควรได้รับเพื่อนำมาต่อสู้กับความเครียด และช่วยให้ระบบความจำทำงานดีขึ้น


อีกหนึ่งแร่ธาตุสำคัญที่ใช้ในกระบวนการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้เป็นพลังงานคุณภาพที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้นั้น คือ แมกนีเซียม ซึ่งมีมากในอัลมอนด์ วอลนัต และถั่วบราซิล



การบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบของโปรตีนไม่เพียงพอนี่เอง ที่เป็นสาเหตุให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย เพราะร่างกายคนเราจำเป็นต้องได้รับโปรตีนเพื่อนำไปช่วยซ่อมแซมและสร้างเซลล์ต่าง ๆ เราจึงควรเลือกกินอาหารที่ประกอบด้วยโปรตีนคุณภาพ ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีให้กับร่างกายต่อไป เช่น เนื้อปลา ถั่ว นม โยเกิร์ต ไข่ และเต้าหู้


ถึงอย่างไรคาร์โบไฮเดรตก็ยังเป็นแหล่งสร้างพลังงานที่สำคัญให้สมอง การลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตในแนวทางการลดความอ้วนจึงอาจส่งผลกระทบให้สมองไม่สดใสและเฉื่อย เพราะจำนวนกลูโคสและน้ำตาลที่ใช้ไปเลี้ยงเซลล์สมองย่อมลดลง มาเลือกรับคาร์โบไฮเดรตอย่างมีสติ ด้วยการเลือกแหล่งอาหารดี ๆ กันเถอะค่ะ



อาหารที่ได้ชื่อว่ามีปริมาณแคลอรี่สูง มักตกเป็นจำเลยทุกครั้งที่เกิดความอ้วนขึ้น แต่ในอีกมุมหนึ่ง ปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับจากการกินอาหารเหล่านั้นก็มีความสำคัญกับการกระตุ้นระบบเมตาบอลิซึมให้ทำงานอย่างเป็นปกติ ช่วยให้คุณสดใส รู้สึกเซื่องซึม หรือรู้สึกเพลียในระหว่างวัน ดังนั้น อย่ามัวแต่กลัวอ้วนจนหลงลืมกินอาหารที่ให้ปริมาณแคลอรี่กับร่างกายอย่างเพียงพอในแต่ละวันด้วยนะคะ
