วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

โรคตับ


ภัยเงียบที่น่ากลัว... อาการของโรคตับ

 ภาพตับมนุษย์

โรคตับ Hepatitis

      โรคตับ อวัยวะสำคัญอย่างหนึ่งของร่างกายเรา อยู่ใต้ชายโครงด้านขวา มีหน้าที่ในการผลิตน้ำดี เพื่อไปย่อยอาหารประเภทไขมัน และกำจัดสารพิษตกค้างในร่างกายของเรา นอกจากนี้ยังช่วยผลิตสารที่นำเกล็ดเลือดไปห้ามเลือดได้อีกด้วย โรคตับส่วนมากมักจะไม่ทำให้เกิดอาการปวด เพราะว่าตับนั้นมีเส้นประสาทรับความเจ็บปวดเฉพาะเปลือกหุ้นตับเท่านั้น การอักเสบภายในเนื้อตับนั้นจึงมักไม่ทำให้เกิดอาการปวดแต่อย่างใด

โรคตับแข็งเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง

  • 1) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • 2) ไวรัสตับอักเสบ
  • 3) ยา สารพิษ และพยาธิบางชนิด
  • 4) ท่อน้ำดีอุดตัน
  • 5) ภาวะหัวใจวายเรื้อรัง
  • 6) โรคทางพันธุกรรมบางชนิด
  • 7) ไขมันสะสมสูง
  • 8) โรคตับอักเสบจากภูมิต้านทานตนเอง (Autoimmune Hepatitis)

ภาพแสดงอาการของโรคตับ

อาการของโรคตับ

      อาการที่แสดงออกมา มักจะเกิดจากการทำหน้าที่ของตับที่ลดลง ทำให้มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร หรือในรายที่เป็นมาก อาจมีตัวเหลือง ตาเหลือง(ดีซ่าน) เลือดอออกง่ายหรือ มีอาการซึมสับสนไปเลยก็มี
      นอกจากนี้ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีโรคตับที่เป็นเรื้อรังจนทำให้เกิดผังผืดในตับ มากจนกลายเป็นตับแข็งนั้น ผู้ป่วยอาจจะมีอาการจากภาวะความดันของหลอดเลือดดำ ที่เข้าตับสูง หรือที่เรียกว่าหลอดเลือดดำ พอร์ทอลนั่นเอง
      อาการพอร์ทอลนี้ ทำให้เกิดมีน้ำในช่องท้องหรือท้องมาน รวมไปถึงเส้นเลือดโป่งบริเวณหลอดเลือดดำในระบบ ทางเดินอาหารโดยเฉพาะบริเวณหลอดอาหาร และกระเพาะอาหารหากเมื่อไหร่ที่ความดันหลอดเลือดสูงมากๆ ก็จะทำให้เส้นเลือดที่โป่งแตกออกเกิดเลือดออกในทางเดินอาหาร มีอาการอาเจียนเป็นเลือดหรืออุจจาระมีสีดำแดง จากเลือดที่ออกในระบบทางเดินอาหาร
      โรคตับส่วนมาก ที่พบนั้นมักจะเป็นภัยเงียบนอกจากจะไม่ปวดท้องแล้วนั้น ยังไม่ค่อยมีอาการให้เห็นหากไม่ได้ตรวจเลือด กว่าที่จะแสดงอาการก็ป่วยมากแล้ว หรือตับแข็งไปแล้วนั่นเอง 

อาการแสดงของผู้ป่วยตับแข็งในระยะท้าย ผู้ป่วยจะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องมาน และมีเส้นเลือดฝอยขยายเป็นสีแดงๆบริเวณฝ่ามือและหน้าอก

การป้องกันไม่ให้เกิดโรคตับ

  • 1) หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ถ้าหากตรวจพบว่าเป็นพาหะของเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซี ห้ามดื่มโดยเด็ดขาด 
  • 2) ให้ฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบจากไวรัสบี ซึ่งนิยมฉีดกันตั้งแต่แรกเกิด 
  • 3) ต้องระมัดระวังการใช้ยาที่มีพิษต่อตับ 

การดูแลด้วยสมุนไพร
คุณหมอเส็งได้แนะนำผลิตภัณฑ์สมุนไพร คือ
11/30/2559 / by / 0 Comments