โรคไมเกรน (Migraine)
คำจำกัดความของโรคไมเกรน
โรคไมเกรน คือ
โรคไมเกรน เป็นโรคที่ก่อให้เกิดอาการปวดศรีษะเรื้อรังชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเฉพาะตัวที่สำคัญคือ อาการปวดศรีษะนั้นมักจะปวดข้างเดียว หรือเริ่มปวดข้างเดียวก่อนแล้วจึงปวดทั้งสองข้าง และแต่ละครั้งที่ปวดมักจะย้ายข้างไปมาหรือย้ายตำแหน่งได้ แต่บางครั้งก็อาจจะปวดทั้งสองข้างขึ้นมาพร้อมๆกัน ตั้งแต่แรก ลักษณะอาการปวดมักจะปวดตุ๊บๆ เป็นระยะๆ แต่ก็มีบางคราวที่ปวดแบบตื้อๆ ส่วนมากจะปวดรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก โดยจะค่อยๆปวดมากขึ้นทีละน้อย จนกระทั้งปวดรุนแรงเต็มที่แล้วจึงค่อยๆบรรเทาอาการปวดลงจนหาย ขณะที่ปวดศรีษะก็มักจะมีอาการคลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมด้วย ระยะเวลาปวดมักจะนานหลายชั่วโมง แต่ส่วนใหญ่มักจะนานไม่เกิน 1 วัน ในบางรายอาจจะมีอาการเตือนนำมาก่อนหลายนาที เช่น สายตาพล่ามัว หรือมองเห็นแสงกระพริบๆ อาการปวดนั้นไม่เลือกเวลา บางรายอาจปวดขึ้นมากลางดึก หรือปวดตั้งแต่ตื่นนอนขึ้นมา บางรายก็ปวดตั้งแต่ก่อนเข้านอนจนกระทั่งตื่นนอนเช้าก็ยังไม่หายปวดเลยก็ได้
อาการปวดศรีษะไมเกรนต่างจากอาการปวดศรีษะธรรมดาตรงที่ว่า อาการปวดศรีษะธรรมดามักจะปวดทั้งศรีษะ ส่วนใหญ่เป็นอาการปวดตื้อๆ ที่ไม่รุนแรงนัก และมักจะไม่มีอาการอื่น เช่น คลื่นไส้ร่วมด้วย ส่วนใหญ่จะหายได้เอง เมื่อได้นอนหลับสนิทไปพักใหญ่
ส่วนใหญ่พบผู้ป่วยกลุ่มใด วัยใด เพศใด มากที่สุด
โรคปวดศรีษะไมเกรนส่วนใหญ่จะเป็นในผู้ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย มักเป็นในผู้ที่มีความเครียดทางอารมณ์และจิตใจสูง แต่ก็อาจเกิด ในผู้ที่สุขภาพจิตดีก็ได้
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไมเกรน
ปัจจุบันสาเหตุของไมเกรนก็ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด มีอยู่หลายทฤษฎีที่เชื่อว่าน่าจะเป็นไปได้ โดยเชื่อกันว่าอาจจะเกิดจากความผิดปกติที่ระดับสารเคมีในสมอง การสื่อกระแสในสมอง หรือการทำงานที่ผิดปกติไปของหลอดเลือดสมองก็ได้
จากหลักฐานข้อมูลทางระบาดวิทยา ปัจจะบันเชื่อว่าไมเกรนถ่ายทอดทางพันธูกรรมได้ แต่จะเกิดอาการหรือไม่ขึ้นอยู่กันปัจจัยทั้งภายในและภายนอกร่างกายที่มากระทบตัวผู้เป็นโรคไมเกรน
สาเหตุกระตุ้น ให้เกิดโรคไมเกรน
โรคนี้มักมีอาการปวดศีรษะกำเริบเป็นครั้งคราว ทุกครั้งที่กำเริบ มักจะมีสาเหตุกระตุ้นล่วงหน้า เป็นชั่วโมงถึง 2 วันเสมอ ผู้ป่วยควรสังเกตว่ามีอะไรเป็นเหตุกำเริบ หรือสิ่งกระตุ้นบ้าง (มักมีได้มากกว่า 1 อย่าง) เช่น
- ทางตา : แสงแดด แสงจ้า แสงระยิบระยับ การใช้สายตาเคร่งเครียดหรือลายตา (เช่น จ้องจอ คอมพิวเตอร์ หรืออ่านหนังสือนาน ๆ)
- ทางหู : เสียงดัง เสียงจอแจ
- ทางจมูก : กลิ่นต่าง ๆ รวมทั้งกลิ่นน้ำหอม ควันบุหรี่
- ทางลิ้น : อาหาร (เช่น เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล หมูแฮม ไส้กรอก ถั่ว กล้วยหอม ช็อกโกแลต ผงชูรส น้ำตาลเทียม-แอสพาร์เทม (aspartame) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มกาแฟมาก เป็นต้น) ยาเม็ดคุมกำเนิด ยานอนหลับ
- ทางกาย (กายภาพ) : อากาศร้อนจัด เย็นจัด อบอ้าว หิวจัด อิ่มจัด อดนอน นอนมาก (ตื่นสาย) ร่างกายเหนื่อยล้า ประจำเดือนมา มีไข้สูง มีอาการเจ็บปวดที่ต่าง ๆ (เช่น ปวดประจำเดือน ปวดฟัน)
- ทางใจ : เครียด กังวล คิดมาก ซึมเศร้า
การดูแลด้วยสมุนไพร
คุณหมอเส็งได้แนะนำผลิตภัณฑ์สมุนไพร คือ
- สตาร์ไลฟ์ 111 หรือ สตาร์ไลฟ์ 999 ทาน 30cc. (เช้า-เย็น)
- ยาหอมน้ำ ทานครั้งละ ครึ่งขวด (เช้า-เย็น)
- ยาบรรเทาอาการปวดเมื่อย ครั้งละครึ่งขวด (เข้า-เย็น)
ให้นำผลิตภัณฑ์ 3 อย่าง รับประทานพร้อมกัน 2 ครั้ง (เช้า-เย็น)
รับประทานติดต่อกัน 7-10วัน อาการปวดจะดีขึ้นมาก หรือหายไปเลย
ถ้าจะให้หายขาด ควรรับประทาน ติดต่อกัน 3 เดือน